Dr. Strangelove (1964) ด็อกเตอร์เสตรนจ์เลิฟ
VIDEO
เรื่องย่อ : Dr. Strangelove (1964) ด็อกเตอร์เสตรนจ์เลิฟ
ดูหนัง Dr. Strangelove (1964)
รีวิวและสปอย
“Dr. Strangelove or: How I Learned to Stop Worrying and Love the Bomb” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ด็อกเตอร์เสตรนจ์เลิฟ” เป็นภาพยนตร์ตลกดำที่กำกับโดย Stanley Kubrick ซึ่งออกฉายเมื่อปี 1964 ผลงานนี้นำเสนอความตลกขบขันที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดเกี่ยวกับสงครามเย็นและภัยคุกคามจากนิวเคลียร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวของการตัดสินใจที่ผิดพลาดโดยเจ้าหน้าที่ทหารที่นำไปสู่การเปิดศึกนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต
เรื่องเริ่มต้นที่ General Jack D. Ripper (รับบทโดย Sterling Hayden) ซึ่งเชื่อว่าศัตรูของประเทศกำลังพยายามทำลายความบริสุทธิ์ของน้ำ เขาจึงสั่งให้กองบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์เข้าทำลายเป้าหมายในสหภาพโซเวียต โดยที่เขาไม่รู้ว่าการตัดสินใจนี้จะนำไปสู่การทำลายล้างครั้งใหญ่
ขณะเดียวกัน President Merkin Muffley (รับบทโดย Peter Sellers) กับทีมที่ปรึกษาของเขา รวมถึง Dr. Strangelove (รับบทโดย Peter Sellers อีกคน) ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน ที่เคยทำงานให้กับนาซี ต้องหาทางหยุดยั้งการโจมตีนี้ให้ได้ โดยมีความตลกขบขันแทรกอยู่ตลอดเรื่องราว
ความน่าสนใจของเรื่องอยู่ที่การนำเสนออารมณ์ขันในสถานการณ์ที่น่าเครียดและน่ากลัว โดยใช้การเสียดสีและการแสดงถึงความไร้สาระของสงครามนิวเคลียร์ นอกจากนี้ยังมีการแสดงออกถึงความขัดแย้งทางการเมืองและสังคมที่เกิดขึ้นในยุคนั้น
นักแสดงในเรื่อง
- Peter Sellers – รับบท President Merkin Muffley, Dr. Strangelove, และ Group Captain Lionel Mandrake
- George C. Scott – รับบท General Buck Turgidson
- Sterling Hayden – รับบท General Jack D. Ripper
- Keenan Wynn – รับบท Colonel Bat Guano
- Peter Bull – รับบท Russian Ambassador
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
“Dr. Strangelove” ได้รับคะแนน 8.4/10 จาก IMDB และ 98% จาก Rotten Tomatoes ซึ่งสะท้อนถึงความนิยมและคุณภาพของภาพยนตร์ที่ยังคงอยู่ในใจผู้ชมมาตั้งแต่อดีต
สรุป
“ด็อกเตอร์เสตรนจ์เลิฟ” เป็นภาพยนตร์ที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของวงการภาพยนตร์ โดยเฉพาะในแนวทางของภาพยนตร์ตลกดำที่มีการเสียดสีทางการเมืองและสังคม การแสดงของ Peter Sellers ในบทบาทที่หลากหลายช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับเรื่องราวอย่างมาก ภาพยนตร์นี้ไม่เพียงแค่เป็นการนำเสนอความขัดแย้งทางการทหาร แต่ยังเป็นการพูดถึงความไร้สาระของสงครามและผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อมนุษย์ โดยเฉพาะในยุคที่โลกต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์
ด้วยการผสมผสานระหว่างอารมณ์ขันและความตึงเครียด “Dr. Strangelove” ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่ควรดูสำหรับผู้ที่สนใจในเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ สงคราม และการเมือง โดยไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนตัวยงของ Kubrick หรือเพียงแค่ต้องการชมภาพยนตร์ที่มีสาระและความบันเทิง เรื่องนี้ก็คุ้มค่าที่จะได้ดู